ผมเชื่อแน่ว่าเจ้าของน้องหมาหลายคน มีสิ่งที่หนักใจมากที่สุดเหมือนกันสิ่งหนึ่งก็คือ กังวลว่าเมื่อน้องหมาไม่สบาย จะนำเงินที่ไหนมารักษาน้องหมา เพราะค่ารักษาตามคลินิกก็แพงแสนแพง หรือแม้แต่การรักษาตามโรงพยาบาลสัตว์ของรัฐบาล ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเลย
ดังนั้นเมื่อน้องหมาป่วยแต่ละที จึงหมายถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องตามมามากมาย แต่ในเศรษฐกิจเช่นนี้ แม้ตอนนี้คุณจะ “พอมี” แต่ก็คงไม่ได้ “มีพอ” ไปตลอด
ดังนั้นมาดูกันสิว่าหากเกิดกรณีที่น้องหมาของคุณป่วย มีวิธีใดบ้างที่พอจะเซฟเงินในกระเป๋าของคุณให้อยู่นานที่สุด หากจำเป็นจะต้องใช้ ก็ต้องใช้อย่างมีคุณค่า หรือบางกรณีการแก้ปัญหานี้ก็อาจทำได้โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเลยด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณอาจจะต้องเหนื่อยออกแรงหน่อย แต่เพื่อน้องหมาที่คุณรัก และรักษาสภาพคล่องทางการเงินเอาไว้ ณ เวลานี้ก็สมควรทำไม่ใช่หรือครับ
1. ต่อรองคุณหมอ…ขอผ่อนชำระ
การหาทางช่วยน้องหมาป่วย กรณีที่คุณพาน้องหมาไปรักษากับคุณหมอแล้ว และคุณหมอแจ้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งค่ายา ค่าผ่าตัด หรือค่ารักษาอื่น ๆ ที่ยาวเป็นหางว่าว จนคุณมั่นใจว่าไม่มีทางจ่ายไหวแน่ ๆ แต่หากคุณจำเป็นต้องรักษาต่อ การต่อรองขอผ่อนชำระกับคุณหมอถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
เพราะยุคนี้ไม่ว่าอะไรก็สามารถผ่อนชำระได้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ค่ารักษาน้องหมา ซึ่งเจ้าของน้องหมาหลายรายก็จะขอคุยกับคุณหมอ เพื่อให้คุณหมอเห็นใจและเข้าใจว่า เจ้าของมีความตั้งใจจริงที่จะรักษาน้องหมา แต่ด้วยสภาพการเงินไม่อำนวย จึงอยากขอผ่อนเป็นงวด ๆ ซึ่งคุณอาจทำข้อตกลงกับคุณหมอว่าจะเริ่มผ่อนได้เมื่อไร และครั้งละเท่าไร
หากคุณหมอยินดีช่วยเหลือ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการรักษาสัญญาให้ได้ครับ เพราะเมื่อคุณหมอไว้ใจให้คุณ “เชื่อ” แล้ว คุณก็ควรแสดงให้คุณหมอเห็นว่าคุณ “เชื่อใจ” ได้จริง ๆ ดังนั้นส่งให้ครบอย่าให้ขาด ให้คิดเสียว่าคุณกำลังส่งค่างวดบ้าน ค่างวดรถนั่นแหละครับ เพียงแต่ครั้งนี้แม้คุณจะขาดส่ง ก็อาจไม่มีใครมายึดของของคุณได้ แต่อย่าลืมนะครับว่า “ชีวิตน้องหมา” อยู่ในกำมือคุณแล้ว
2. ซื้อยารักษาสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ
กรณีที่คุณมีปัญหา ไม่มีเงินมาช่วยรักษาสุนัขป่วย การหาทางช่วยน้องหมาป่วยอีกทางที่น่าสนใจก็คือ การกัดฟันพาน้องหมาไปรักษากับคุณหมอก่อน หากน้องหมาไม่ได้มีอาการร้ายแรงมาก แค่จำเป็นจะต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง โดยคุณหมอจะนัดให้คุณมารับยาเรื่อย ๆ หากเป็นเช่นนี้ก็เบาใจได้ครับ เพราะคุณสามารถหายานั้น ๆ ได้เอง เช่น
-ซื้อจากร้านขายยาสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยตรง หรือจะซื้อจากเพจก็มักจะมีราคาถูกกว่า
-หากคุณไม่สามารถหาซื้อยาสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะได้ ลองนำยานั้นไปปรึกษาเภสัชกรเพื่อเทียบเคียงตัวยา ซึ่งเภสัชกรบางคนก็จะแนะนำยาของคนแต่มีตัวยาเดียวกันนั้นให้ และยังแนะนำปริมาณการกินตามขนาดตัวน้องหมาด้วย แต่ทั้งนี้ขอให้คุณทำใจก่อนว่า เภสัชกรบางคนก็อาจไม่ค่อยโอเคที่คุณนำยาคนไปให้น้องหมากิน และเขาก็อาจกลัวว่าจะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นหากเขาไม่เต็มใจคุณก็ควรเข้าใจเขาด้วยนะครับ
-กรณีที่ยาของคุณหมอมาแบบไม่มีชื่อยา ไม่มีแพกเกจเดิมเลย การสอบถามตรง ๆ ว่ายานั้นชื่อว่าอะไร และขอความเห็นใจจากคุณหมอก็จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เยอะเลย
3. เปลี่ยน “ของเกินจำเป็น” ให้เป็น “เงินจำเป็นต้องใช้”
การหาเงินมารักษาน้องหมา ที่กำลังเป็นที่นิยมมากในตอนนี้ก็คือ การแปลงทรัพย์สินเป็นเงินทองครับ คือคุณอาจดูเป็นคนร่ำรวยเพราะมีของดี ๆ ใช้ แต่ใครจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณแทบไม่มีจะกิน ดังนั้นถ้าคุณมีข้าวของมากมาย โดยเฉพาะของดี ๆ ที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือเกินจำเป็น คุณก็สามารถนำมาประมูลให้ได้ยอดสูง ๆ หรือขายเลย เพื่อเป็นทุนช่วยรักษาน้องหมาได้
ซึ่งวิธีขายหรือประมูลก็มีหลากหลายช่องทาง เช่น
-ขายให้คนรู้จักหรือคนใกล้ตัว ได้เงินไว ไม่มีโกง แต่อาจโดนต่อเพราะความที่เป็นคนรู้จักนี่แหละครับ
-ขายเหมาให้พ่อค้าแม่ค้า ได้เงินไว แต่อาจไม่ได้ตามงบที่ต้องการ
-ขายหน้าเฟซบุ๊กของคุณเอง บนพื้นที่ส่วนตัวไม่ต้องรบกวนใคร
-ขายในกลุ่มหรือเพจที่เกี่ยวกับน้องหมา คนเห็นเยอะยิ่งเพิ่มโอกาสการขาย
-ฝากขาย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียเวลาขายเอง แต่ก็อาจเสียเวลารอเงิน
4. รักษาให้หายขาดไม่ไหว ต้องใช้วิธีประคองโรค
บางครั้งน้องหมาของคุณก็ป่วยหนัก ชนิดที่ถ้ารักษาให้หายขาดก็ต้องใช้เงินก้อนโตมาก ซึ่งต่อให้คุณคิดแล้วคิดอีกก็ไม่มีทางหาเงินมารักษาหรือผ่อนชำระได้แน่นอน
ดังนั้นในเมื่อรักษาให้หายขาดไม่ไหว ก็ต้องใช้วิธีประคองโรค คือรักษาแบบให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยที่คุณยังพอจ่ายได้ แม้โรคนั้นจะยังอยู่กับเขา แต่ก็ไม่ทำอันตรายมากนัก หรือไม่ปรากฏอาการรุนแรง
ซึ่งการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) นี้ นอกจากเรื่องของเงินทองแล้ว สิ่งสำคัญก็คือคุณจะต้องมีเวลาดูแลน้องหมา หรือใส่ใจเขาให้มากขึ้น เพราะคุณต้องระลึกเสมอว่า โรคหรืออาการที่น้องหมาเป็นอยู่ไม่ได้จากไปไหน มันอาจแสดงอาการออกมาได้ทุกเมื่อ การหมั่นสังเกตเขาเป็นประจำ ดูแลสุขภาพกายและใจของน้องหมาอย่างดี ก็น่าจะช่วยชะลอฤทธิ์เดชของอาการเจ็บป่วยที่น้องหมาเป็นอยู่ได้
5. รักษาด้วยวิธีธรรมชาติประหยัดตังค์
บางครั้งน้องหมาของคุณก็ป่วยหนัก ชนิดที่ถ้ารักษาให้หายขาดก็ต้องใช้เงินก้อนโตมาก ซึ่งต่อให้คุณคิดแล้วคิดอีกก็ไม่มีทางหาเงินมารักษาหรือผ่อนชำระได้แน่นอน
ดังนั้นในเมื่อรักษาให้หายขาดไม่ไหว ก็ต้องใช้วิธีประคองโรค คือรักษาแบบให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยที่คุณยังพอจ่ายได้ แม้โรคนั้นจะยังอยู่กับเขา แต่ก็ไม่ทำอันตรายมากนัก หรือไม่ปรากฏอาการรุนแรง
ซึ่งการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative Care) นี้ นอกจากเรื่องของเงินทองแล้ว สิ่งสำคัญก็คือคุณจะต้องมีเวลาดูแลน้องหมา หรือใส่ใจเขาให้มากขึ้น เพราะคุณต้องระลึกเสมอว่า โรคหรืออาการที่น้องหมาเป็นอยู่ไม่ได้จากไปไหน มันอาจแสดงอาการออกมาได้ทุกเมื่อ การหมั่นสังเกตเขาเป็นประจำ ดูแลสุขภาพกายและใจของน้องหมาอย่างดี ก็น่าจะช่วยชะลอฤทธิ์เดชของอาการเจ็บป่วยที่น้องหมาเป็นอยู่ได้
5. รักษาด้วยวิธีธรรมชาติประหยัดตังค์ (h2)
การหาทางช่วยน้องหมาป่วยด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะถ้าน้องหมาที่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง คุณอาจหายาสมุนไพรบำรุงน้องหมา มาทดแทนยาที่มาจากสารเคมีได้ เพื่อช่วยให้น้องหมามีสุขภาพดี ไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี และผลข้างเคียงก็น้อย เพราะค่อนข้างปลอดภัยเนื่องจากมาจากธรรมชาติจริง ๆ
ซึ่งยาสมุนไพรที่ช่วยดูแลน้องหมาโดยตรงหลายชนิด ก็ล้วนเป็นพืชที่เราคุ้นเคยทั้งนั้น ดังนั้นหากคุณได้ปลูกสมุนไพรเหล่านี้ไว้ที่บ้าน นอกจากจะสวยงามแล้ว ก็ยังประหยัด และเป็นยาดีให้น้องหมากินยามไม่สบายด้วย เช่น
-อบเชย (Cinnamon) เสริมภูมิคุ้มกัน และเหมาะกับน้องหมาแก่ เพราะช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ
-สะระแหน่ (Mint) ลดอาการอยากอาเจียน และช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหารน้องหมา ที่มักมีปัญหาเรื่องท้องอืดบ่อย ๆ
-รางจืด (Laurel Clockvine) ใบของรางจืดกินแล้วดีมากครับ เพราะจะช่วยบรรเทาไข้ และยังช่วยล้างพิษตกค้างได้ดี
-ขิง (Ginger) บำรุงสมอง เหมาะกับน้องหมาที่ชอบอาเจียนเพราะเมารถ และยังดูแลข้อต่อที่เสื่อมสภาพของน้องหมาสูงวัยด้วย
-ขมิ้นชัน (Turmeric) เมื่อน้องหมามีแผลทั้งจากภายนอกหรือภายใน สารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) ในขมิ้นจะออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย
-ฟ้าทะลายโจร (Kariyat) ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย และลดไข้ให้น้องหมา
6. ระดมทุนอย่างโปร่งใสทำอย่างไร
กรณีที่คุณไม่มีเงินเลย คุณสามารถหาเงินมารักษาน้องหมาที่ป่วยได้โดยการระดมทุน ซึ่งยุคนี้การระดมทุนไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไปครับ เพราะหากคุณทำด้วยความโปร่งใสบริสุทธิ์ใจแล้ว คุณก็ไม่ต้องกังวลมากนัก
อย่างไรก็ตามมีคำแนะนำดี ๆ มาฝากคุณ หากคุณจำเป็นจะต้องระดมทุนตามเพจหรือกลุ่มต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้รับความช่วยเหลือเต็มที่ น่าเชื่อถือ และป้องกันปัญหาความคลางแคลงใจได้
-การเล่าสตอรี่ของน้องหมาคุณ โดยเฉพาะถ้าเขามีเรื่องราวน่ารันทด หรือเรื่องดราม่า ก็จะช่วยเรียกความสนใจจากคนส่วนใหญ่ได้ ดังนั้นเขียนให้ดี ลีลาโดน ๆ ก็จะช่วยให้ความช่วยเหลือหลั่งไหลไม่ขาดสาย
-หากมีหลักฐานที่ช่วยทำให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น คุณก็ควรแนบให้เห็นด้วย เช่น ใบแจ้งหนี้จากคลินิก รายการที่ต้องจ่ายค่ารักษาน้องหมา ผลการวินิจฉัยโรค
-ประกาศระดมทุนเลยว่าคุณต้องการระดมทุนกี่บาท และจะปิดทันทีที่ได้ตามต้องการแล้ว
-การอัพเดตแจ้งว่าผู้ใดช่วยโอนมาบ้าง ก็จะช่วยแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของคุณ
-เมื่อคุณได้เงินมาแล้วอย่าลืมกลับไปโพสต์แสดงความคืบหน้าของน้องหมาด้วย ว่าคุณได้นำเงินไปใช้จริง และเชื่อเถอะครับว่า ไม่ว่าใครก็อยากจะรู้ว่าเงินของเขาได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์จริง ๆ หรือไม่
7. ขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ
บางครั้งคุณก็อาจขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพโดยตรง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่เสียงเล็ก ๆ ของเราก็อาจกลายเป็นเสียงดังจนได้ยินไปทั่ว
เช่น การขอความช่วยเหลือ ประกาศ หรือขอคำปรึกษาจากแหล่งต่าง ๆ เหล่านี้
-เพจ Thai Love Animal
-เพจ หมาหาบ้าน Places for Paws
-เพจ SOS Animal Thailand
-เพจ fight for dog
-เพจ The Voice (เสียงจากเรา)
-เว็บไซต์ WVS Thailand
-เพจ หมาหาบ้าน Adopt Me Please
-เพจ หมามะเร็ง Dogs Cancer (ช่วยเหลือน้องหมาที่เป็นมะเร็งโดยเฉพาะ)
-เพจ Soi Dog (มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย หรือ Soi Dog ซอยด๊อก)
-เว็บไซต์ The Voice Foundation (กระบอกเสียงเรียกร้องสิทธิ์ให้น้องหมาโดยตรง)
-เพจ ธนาคารเลือดสุนัขและแมว (กรณีที่คุณต้องการเลือดน้องหมาหรือต้องการให้น้องหมาคุณได้บริจาคเลือด)
-คุณหมอชัย หรือนายสัตวแพทย์รักษา ศิลาสุวรรณ แห่งคลินิกรักษาสัตว์ “เพ็ทบัดดี้ รักษาสัตว์” ที่รับรักษาสัตว์ฟรีกรณีที่เจ้าของไม่สามารถรับภาระค่ารักษาได้ แต่เนื่องจากมีผู้ติดต่อขอให้คุณหมอช่วยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการนำน้องหมาไปรักษากับคุณหมอ ก็จะเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่คุณอาจขอคำปรึกษาคุณหมอได้ เพื่อให้คุณหมอช่วยแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับทั้งน้องหมาและคุณมากที่สุด
การหาทางช่วยน้องหมาของคุณที่ป่วย ทั้งวิธีที่เสียเงินบ้าง หรือไม่เสียเงินเลย เป็นสิ่งที่คุณต้องพิจารณาเสียแต่ตอนนี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าน้องหมาของคุณจะป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุเมื่อใด การคิดหาวิธีรับมือแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณไม่ตื่นตกใจ หรือคิดว่าหมดหนทาง ยามที่ปัญหาเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
แต่เหนืออื่นใดก็คือหากวันนี้น้องหมาของคุณยังสบายดี การดูแลสุขภาพน้องหมาอย่างสม่ำเสมอ ก็คือหัวใจของการรักษาสุขอนามัยที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่าง ๆ ที่ทำให้น้องหมา “เสียสุขภาพ” และทำให้คุณ “เสียเงิน” ในกระเป๋าไปด้วย
