เลี้ยงสุนัขไม่ไหว ทำไงดี


วิธีแก้ปัญหา หากคุณเลี้ยงสุนัขไม่ไหว

คงกลายเป็นเรื่องกังวลใจขึ้นมาทันทีเมื่อพฤติกรรมของเราบ่งบอกว่าการเลี้ยงสุนัขตัวนี้ ฝูงนี้ไม่ดีพอ บางคนถึงขั้นเลี้ยงไม่ไหวอีกต่อไป การเกิดปัญหาเหล่านี้นำพามาซึ่งความสงสัยไปอีกว่าเลี้ยงสุนัขไม่ไหว ไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อให้สุนัขยังคงได้รับการเลี้ยงดู มีอาหาร มีน้ำกิน

เอาเป็นว่าเรื่องนี้มีทางออกอยู่ เพียงคุณต้องรู้ก่อนว่าสัญญาณแบบไหนที่ส่งผ่านว่าการเลี้ยงสุนัขไม่ดีพอ และหากเลี้ยงไม่ไหวจริง ๆ ต้องทำตามวิธีนี้ ช่วยให้สุนัขยังคงมีชีวิตที่ปลอดภัย อิ่มท้องตลอดช่วงชีวิต

สัญญาณว่าคุณดูแลสุนัขไม่ดีพอ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจัยหลายด้านส่งผลต่อการมีชีวิตของสุนัขอย่างดีที่สุด ซึ่งหากเราเลี้ยงหรือดูแลได้ไม่ดีพออาจทำให้สุนัขเปลี่ยนไปเป็นตัวละตัวเลยก็เป็นได้ จากที่ร่าเริง มีความสุขกลายเป็นฉุนเฉียว หรือเศร้าหงอยพาให้จิตใจสุนัขเองห่อเหี่ยว การรู้ถึงสัญญาณว่าคุณดูแลสุนัขไม่ดีพอจึงจะทำให้เข้าใจ และรู้ตัวได้ทันท่วงที

1. ละเลยการให้อาหาร – น้ำ

การให้อาหารที่ว่านี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับโภชนาการที่ควรจะเป็นในแต่ละวัน ซึ่งจะทำให้สุนัขอิ่มท้อง มีแรงใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างเต็มที่ แต่หากละเลยให้บ้าง ไม่ให้บ้างชนิดที่ไม่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะ ข้าว อาหารเม็ด หรือแม้แต่น้ำ นอกจากจะเรื่องของพละกำลังก็ยังมีผลต่อการสร้างและรักษาเซลล์ร่างกาย ฟัน ผิวหนัง ขน ข้อต่อ โดยสุนัขจะรอคุณในเวลาเดิม สถานที่เดิม แต่เมื่อไม่มีแล้วก็หิวโหยเหมือนคนนั่นแหละ

2. ปล่อยให้แห้งเหี่ยวอยู่ในบ้าน

แห้งเหี่ยวที่ว่านี้ก็คือการปล่อยให้เหงา ๆ นอนเฝ้าบ้านโดยไม่มีกิจกรรมทำเลยแม้แต่นิด ทั้งพาออกไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือเดินในในบริเวณบ้าน กลับมาถึงบ้านก็ไม่สนที่จะจับ จะลูบใด ๆ ทำให้สุนัขรู้สึกโดดเดี่ยว เหงาหงอย ทำให้สภาวะจิตใจไม่ปกติ อาจจะกลายเป็นสุนัขมีปัญหา ไม่ชอบการเข้าสังคมไปเลย หรือขี้กลัว ขี้ตกใจ ซึ่งการเลี้ยงสุนัขควรให้ความสำคัญกับสภาวะจิตใจ หมั่นเล่นด้วยก็คงจะดี

3. ไม่ดูแลความสะอาด

การดูแลความสะอาดนับตั้งแต่เรื่องการขับถ่าย เมื่อขับถ่ายแล้วก็ปล่อยไว้เป็นอาทิตย์ โดยเฉพาะกับสุนัขพันธุ์เล็ก ๆ คือไม่ได้เลยจริง ๆ ไปจนถึงการอาบน้ำ ชำระล้างสิ่งสกปรกก็ไม่สนใจ ซึ่งอาจทำให้สุขอนามัยของสุนัขมีปัญหา มีเห็บ หมัดกวนใจ เผลอ ๆ เป็นเรื้อน เป็นราขึ้นมาได้ หรืออาบน้ำเสร็จก็ไม่เช็ดขนให้ ไม่แปรงขนให้ปล่อยให้ขนพันรุงรัง หรือเล็บยาวไปไม่ตัด เป็นต้น แบบนี้เป็นสัญญาณว่าคุณดูแลสุนัขไม่ดีพอแล้วล่ะ

4. ละเลยเรื่องฉีดวัคซีน

สุนัขจำเป็นต้องฉีดวัคซีนสุขภาพร่างกาย ซึ่งบางตัวก็อาจจะมีโรคประจำตัวจำต้องได้รับการให้ยา ฉีดยาทุก ๆ เดือนสม่ำเสมอ แต่คุณก็ละเลย ไม่พาไปตามนัดหรือไม่เคยพาไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิ่งวัคซีนพิษสุนัขบ้าควรค่าต่อการให้ความสำคัญขั้นสุด เพราะหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันโดนกัดหรือหลุดไปกัดคนอื่น เดือดร้อนกันจ้าระหวั่นแน่

5. สุนัขก็ร้อน ก็หนาวเป็น

บางคนเลี้ยงไปโดยไม่ได้สนใจในเรื่องของสภาพอากาศเลย จริงอยู่ที่ประเทศไทยไม่ได้เมืองหนาวแต่ก็มีบางช่วงที่ลมหนาวพัดผ่านก็ควรจะสวมเสื้อใส่สุนัขบ้าง เอาเสื้อยืดของเราที่ไม่ใช้ก็ได้ เพราะถึงบางตัวจะมีขนแต่ก็ยังรู้สึกหนาวเป็น หรือในกรณีอากาศร้อนสุนัขที่มีขนยาว หรือขนพันรุงรังก็ควรตัดแต่งขนทำให้น้องมีขนขึ้นใหม่ก็ยังดี ไม่ใช่ปล่อยไปไม่สนใจดูแล

หากเราเลี้ยงไม่ไหว ต้องทำอย่างไร

เมื่อรู้ตัวขึ้นมาแล้วว่าเลี้ยงไม่ไหวจริง ๆ ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวล้ำนำสมัย มีอินเทอร์เน็ต และคุณเองก็คงมีสื่อโซเชียลช่องทางต่าง ๆ เช่น Facebook, Twitter, Instagram หรือ Website

ดังนั้น หากไม่สามารถเลี้ยงสุนัข หรือเลี้ยงไม่ไหวแล้วแนะนำให้ตามหาบ้านใหม่ภายช่องทางออนไลน์เหล่านี้ไปเลย อาจตามหาบ้านใหม่ตามกลุ่มพันธุ์สุนัขอย่าง บางแก้ว หลังอาน พิตบูล โกลเด้น ฯลฯ หรือโพสต์ในกลุ่มคนรักสุนัข (อย่าลืมอ่านกติกากลุ่มและทำตามด้วยนะ) เริ่มจากโพสต์ชื่อ พันธุ์ อาหารที่ชอบ – ไม่ชอบ และเหตุผลจำเป็นที่ไม่สามารถเลี้ยงดูต่อได้ เพื่อให้ผู้ที่มีความสามารถในการเลี้ยงดูจริง ๆ เอาใจใส่ได้ตลอด มารับไปเลี้ยง นับว่าเป็นวิธีที่ง่ายและอาจได้ผู้ดูแลคนใหม่อย่างรวดเร็ว

หรืออีกกรณีก็คือส่งต่อให้หน่วยงานรัฐอย่าง ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งที่นี่จะรับเลี้ยงสุนัขไว้ด้วยเหตุผล 3 ข้อ

  • เป็นสุนัขจรจัด
  • เป็นสุนัขที่ถูกจับจากผู้ไม่หวังดีลักลอบสุนัขข้ามชาติ
  • เป็นสุนัขที่เจ้าของไม่สามารถดูแลและเลี้ยงดูอีกต่อไปได้

แน่นอนว่าที่นี่จะมีโซนสุนัขไว้มากมาย มีกรงพร้อมหลังคาไม่ต้องกลัวเรื่องแดดเรื่องฝน มีการดูแลให้อาหาร ทำความสะอาดร่างกาย รวมถึงของเสียสุนัข สามารถเดินเล่นได้ตามสะดวก หรือหากมีคนสนใจอยากนำไปเลี้ยงดูต่อก็สามารถติดต่อทำเรื่องได้ โดยศูนย์ฟื้นฟูจะมีด้วยกัน 4 แห่ง ได้แก่

1. ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงบุรีรัมย์ ด่านกักสัตว์บุรีรัมย์ 1 หมู่ที่ 18 ตำบลหูทำนพ อำเภอประคำ จังหวัดบุรีรัมย์ 33112 ติดต่อผ่าน e – mail : qsbr_brr@dld.go.th

2. 4. ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงกาญจนบุรี ด่านกักสัตว์กาญจนบุรี (ทองผาภูมิ) หมู่ที่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71240 ติดต่อผ่านมือถือ โทร. 03 – 468 – 3446 หรือ e – mail : qsar_knr@dld.go.th

3. 1. ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงนครพนม ด่านกักสัตว์นครพนม บ้านหนองบัว หมู่ที่ 10 ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม 48000 ติดต่อผ่านมือถือ โทร. 04 – 252 – 2591 หรือ e – mail : qsko_kop@dld.go.th

4. ศูนย์ฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงสระแก้ว ด่านกักสัตว์สระแก้ว 15 ถ.สุวรรณศร ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 27120 ติดต่อผ่านมือถือ โทร. 03 – 723 – 1208 หรือ e – mail : qssr_srk@dld.go.th

การดูแลสุนัขของเราสิ่งสำคัญที่สุดคือเวลาที่จะมีให้ รวมถึงความใส่ใจรอบด้าน ทั้ง อาหาร สุขภาพ สภาพแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งเราควรต้องพิจารณาตนเองก่อนว่ามีความพร้อมเรื่องเหล่านี้แล้วหรือไม่ ไม่ใช่เห็นว่าลูกสุนัขน่ารัก็ซื้อก็นำมาเลี้ยง เพราะสุนัขก็เป็นอีกชีวิตเปรียบเสมือนเป็นลูกเป็นหลานที่ต้องดูแลอย่างดีที่สุด

แต่หากมีปัญหาไม่สามารถเลี้ยงหรือดูแลได้อีกต่อไป อย่างหนึ่งที่ไม่แนะนำอย่างที่สุด คือ นำสุนัขไปปล่อยในที่ที่ไม่ควร เช่น วัด สถานที่ที่ไม่อาจมีความพร้อมในเรื่องอาหาร การดูแลอย่างเต็มที่ หรือข้างทางที่สุนัขก็อาจจะหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ไม่มีอะไรให้กิน ดีไม่ดีวิ่งออกไปกลางถนนถูกรถชน สุดท้ายต้องจบชีวิตลงอย่างน่าสงสาร

มาถึงตรงนี้ใครที่เลี้ยงสุนัขอยู่แล้วลองเช็คลิสต์สัญญาณว่าคุณดูแลสุนัขไม่ดีไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แล้วเกิดเข้าข่ายแทบทุกข้อ แนะนำให้ทำตาม 2 วิธีข้างต้นอย่างเร็วที่สุดเลยจะดีกว่า ช่วยให้สุนัขได้พบเจ้าของใหม่ที่พร้อมดูแล เอาใจใส่ มีอาหาร มีน้ำ มีที่หลับนอน ได้สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี และโปรดพึงระลึกไว้เสมอว่าหากไม่พร้อมอย่ามีสัตว์เลี้ยงไว้ในครอบครองเลย

บทความล่าสุด