อันที่จริงแล้ว ถ้าน้องหมาของคุณอาเจียนเป็นครั้งคราว ก็ถือว่าไม่แปลกมากนะครับ โดยยิ่งสุนัขตัวไหนที่พอคุณให้อาหารแล้วมักตื่นเต้นเป็นพิเศษจนเผลอกินอาหารเร็วเกินไปแบบไม่รู้ตัว ก็ทำให้สุนัขอ้วกออกมาได้
รวมไปถึงเหล่าน้องหมาจอมซนที่ชอบกินไม่เลือก โดยกินได้ตั้งแต่ของเล่น กระดาษทิชชู่ ต้นไม้ หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ก็อาจทำให้สุนัขอ้วกได้เช่นกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากสุนัขของคุณอ้วกเป็นประจำ หรืออ้วกแล้วไม่ยอมกินข้าว แม้คุณจะลองให้เมนูโปรดแต่สุนัขของคุณก็ยังเมินและดูเซื่องซึม นั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณอันตรายถึงโรคต่างๆที่อาจมาคุกคามสุนัขของคุณโดยไม่รู้ตัว
ในบทความนี้เราไปดูพร้อมๆกันเลยดีกว่า ว่าอาการอ้วกในสุนัขของคุณเกิดจากอะไรกันแน่ และอาการอ้วกแบบไหนที่คุณควรต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจเป็นสัญญาณของการเจ็บป่วย รวมไปถึงสิ่งที่คุณควรทำเมื่อสุนัขอ้วกและไม่กินข้าวครับ
ทำไมสุนัขถึงอ้วก?
ทำไมสุนัขถึงอ้วก?
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีแก้ปัญหาสุนัขอ้วก หนึ่งสิ่งที่เราต้องเข้าใจก็คือ ‘ทำไมถึงอ้วก’ เพราะการแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ส่วนมากจะมาจากการปรับปัจจัยภายนอกต่างๆ เช่น เปลี่ยนอาหารให้สุนัข เปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่พาไปหาหมอ
อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่ได้เรียนจบสัตว์แพทย์มาครับ ซึ่งสำหรับเจ้าของและน้องหมาที่มีปัญหานี้จริงๆ (อ้วกเยอะ กินข้าวไม่ลงหลายวัน อาการไม่สู้ดี) ผมก็แนะนำให้พาไปหาหมอดีกว่า อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่กำลังลังเลอยู่ ให้ลองดูท้ายบทความได้ครับ อาการด้านล่างคืออาการที่ผมคิดว่าเป็นอาการที่สาหัสควรแก้โดยด่วน
โดยอาการอ้วกของสุนัข แท้จริงแล้วแบ่งได้ 2 แบบใหญ่ๆ นั่นก็คือ:
#1 อ้วกจากการสำลักอาหาร
โดยการสำลักอาหารจนทำให้สุนัขอาเจียน มักเกิดจากการที่สุนัขกินอาหารอย่างตะกละตะกรามจนเกินไปจนทำให้เคี้ยวไม่ทัน กระเพาะเต็ม อาหารที่น้องหมากลืนเข้าไปยังไม่ทันได้ย่อยก็อ้วกออกมาเสียก่อน
ถ้าสุนัขของคุณสำลักอาหารและอ้วกออกมา ก็มักเกิดอาการนี้ภายหลังจากมื้ออาหารไม่นาน สุนัขมักจะก้มหัวลงแล้วอ้วกก็จะไหลออกมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการขย้อนหรือการบีบรัดจากระบบย่อยอาหารแต่อย่างใด อ้วกจะมีลักษณะเหมือนกับอาหารที่ยังไม่ได้โดนย่อย ไม่มีน้ำย่อยปนออกมา และอาจอ้วกออกมาเป็นแท่งหลอด เพราะถูกดันออกมาจากหลอดอาหารนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ถ้าสุนัขของคุณเพราะเกิดอาการสำลักอาหารจากการกินมากจนเกินไป ก็ถือว่าไม่น่าเป็นห่วงเท่ากับอาการอ้วกในแบบอื่นๆเท่าไหร่ครับ
#2 การอาเจียนด้วยโรคต่างๆ
หากสุนัขของคุณอ้วกโดยไม่ได้เกิดจากการสำลักอาหาร ก็อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ได้ครับ:
- การทานอาหารแปลกๆ: ซึ่งนอกจากเรื่องการสำลักอาหารเพราะทานมากเกินไปแล้ว หากสุนัขของคุณกินอาหารที่ผิดแผกไปจากเดิม กินสิ่งแปลกปลอม หรืออาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ก็มีโอกาสที่สุนัขของคุณจะอาเจียนออกมาได้ โดยถือว่าเป็นสาเหตุที่พบได้ทั่วไปเลยล่ะครับ
- การปรับเปลี่ยนรูปแบบอาหาร: มีการปรับรูปแบบอาหารให้สุนัขเร็วจนเกินไป หรือสุนัขมีอาการแพ้อาหารบางอย่างที่ไม่เคยกินมาก่อน
- พยาธิในลำไส้: อาจเป็นได้ทั้งพยาธิตัวกลม พยาธิหัวใจ พยาธิตัวตืด พยาธิตะขอ และพยาธิแส้ม้า โดยสุนัขมักจะต้องมีพยาธิอยู่ในตัวเป็นจำนวนมากก่อนจึงจะทำให้อาเจียนได้
- อาการเมารถ: เมื่อสุนัขของคุณปรับตัวกับการเคลื่อนไหวโดยรอบไม่ทัน
- การอุดตันในลำไส้: อันเกิดจากการที่สุนัขกินสิ่งของหรืออาหารที่ไม่สามารถย่อยได้ เช่นของเล่นหรือกระดูกไก่ แล้วสิ่งนั้นได้เข้าไปอยู่ในลำไส้จนเกิดการอุดตัน
- ฮีทสโตรค: หรือโรคลมแดดที่สุนัขไม่สามารถระบายความร้อนและลดอุณหภูมิร่างกายลงได้ อาจเกิดจากการทิ้งสุนัขเอาไว้ในรถร้อนๆเป็นเวลานาน หากปล่อยไว้อาจทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
- การรับประทานสารพิษ: เช่น ยาเบื่อ ยาพิษ หรือสิ่งที่เป็นพิษอื่นๆ
- การติดเชื้อรูปแบบต่างๆ: ทั้งจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย เช่น ตับอักเสบ กระเพาะอักเสบ การติดเชื้อโรต้าไวรัส (Rotavirus) เป็นต้น
ในสาเหตุที่กล่าวไปข้างต้นนี้ ก็มีทั้งสาเหตุที่รุนแรงและไม่รุนแรงที่อาจทำให้สุนัขของคุณอาเจียนได้ แต่ถ้าหากสุนัขอาเจียนรวมถึงมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่นอาการเซื่องซึม ไม่ยอมกินข้าว หรือท้องเสียร่วมด้วย ก็อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าสุนัขของคุณกำลังเผชิญกับอาการเจ็บป่วยต่างๆ ที่คุณไม่ควรมองข้าม และควรนำสุนัขส่งสัตวแพทย์หากอาการทรุดลงครับ
สิ่งที่ควรทำ เมื่อสุนัขอ้วก ไม่กินข้าว
สำหรับในกรณีที่คุณสังเกตเห็นอาการของสุนัขอ้วกและไม่กินข้าว อันเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการเจ็บป่วยอื่นๆได้อีก คุณไม่ควรนิ่งนอนใจและให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้ครับ
#1 ตรวจสอบลักษณะของอาเจียน
ให้คุณตรวจสอบก่อนเลยว่าลักษณะของอ้วกที่ออกมานั้นเป็นแบบใด โดยได้ลองตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบ ทั้ง:
- อ้วกสุนัขที่ออกมาเป็นอาหารหรือไม่?
- มีน้ำย่อยหรือเมือกปนด้วยหรือไม่?
- มีน้ำ เลือด หรือฟองโฟมปนมาด้วยหรือไม่?
- มีวัสดุแปลกปลอม เช่นเศษของเล่น เศษผ้า หรือวัสดุที่กินไม่ได้ปนมาด้วยหรือไม่?
เมื่อสังเกตลักษณะของอาเจียนเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะสามารถเดาได้คร่าวๆว่าอาการที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด มีความรุนแรงหรือไม่ และในกรณีที่คุณพบวัสดุแปลกปลอม ก็ให้เก็บตัวอย่างเอาไว้เผื่อให้สัตวแพทย์ดูด้วย รวมถึงให้จดจำลักษณะของอาเจียนที่คุณเห็นหรือถ่ายรูปเอาไว้ และจดจำอาการร่วมอื่นๆเอาไว้ด้วย จะได้อธิบายกับสัตวแพทย์ได้อย่างละเอียดในภายหลังครับ
#2 รอดูอาการ
ภายหลังจากที่สุนัขอ้วก ในระหว่างนี้คุณสามารถรอดูอาการโดยงดให้อาหารสุนัขประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบย่อยอาหารพักตัว และยังคงให้น้ำได้ในปริมาณแต่น้อยนะครับ รวมถึงให้ลองสังเกตอาการ ร่วมอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังด้วย
หากอาการดีขึ้น ไม่อาเจียนแล้ว คุณอาจลองกลับมาให้อาหารสุนัขดูอีกครั้งภายใน 6-12 ชั่วโมง แล้วดูว่าสุนัขจะยังมีอาการเบื่ออาหารหรืออาเจียนอีกหรือไม่
#3 หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปหาสัตวแพทย์
หากคุณรอดูสังเกตอาการแล้วสุนัขยังอาการไม่ดีขึ้น โดยมแม้ว่าสุนัขจะหยุดอาเจียนแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมกินอาหารหรือท้องเสียติดต่อกัน 2 วันขึ้นไป หรืออาการทรุดหนักลงภายในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงมีอาการอาเจียนบ่อยครั้งขึ้น ให้คุณรีบนำสุนัขส่งสัตวแพทย์ทันทีครับ
นอกจากนี้ ถ้าหากสุนัขของคุณอ้วกแบบเป็นๆหยุดๆ หรืออ้วกน้อยกว่าวันละครั้งแต่เป็นเรื้อรัง ก็ยังถือว่า ผิดปกตินะครับ คุณควรนำสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจดูอาการเช่นกัน
หากสุนัขมีอาการดังนี้ รีบพาไปหาสัตวแพทย์ทันที
โดยในระหว่างที่คุณสังเกตอาการของสุนัข คุณอาจไม่จำเป็นจะต้องรอดูอาการ แต่สามารถนำสุนัขส่งสัตวแพทย์ได้ทันที ถ้าหากพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้:
- สุนัขอ้วกติดต่อกันไม่หยุดหลายชั่วโมง
- สุนัขมียาประจำตัวที่อาจทำให้อ้วก ให้คุณหยุดยาแล้วโทรหาสัตวแพทย์เพื่อปรึกษาทันที
- คุณพบว่าสุนัขกินสิ่งแปลกปลอมเข้าไป
- สุนัขดูซึมรุนแรง และไม่ตอบสนอง
- ถ้าคุณสงสัยว่าสุนัขอาจถูกวางยา หรือกินสิ่งเป็นพิษเข้าไป
- สุนัขอ้วกเป็นเลือดจำนวนมาก
- สุนัขมีอาการพุงป่องผิดปกติ
- บริเวณท้องของสุนัขดูเกร็งเจ็บ
- เหงือกสุนัขเปลี่ยนเป็นสีซีด สีขาว หรือสีเทา
- สุนัขหายใจลำบาก ดูทรมาน
- หรืออาการอื่นๆที่คุณคิดว่าเป็นอาการที่น่าเป็นห่วงครับ
ดังนั้นแล้ว การที่สุนัขอ้วกและไม่กินข้าวก็ถือว่าเป็นอาการสำคัญที่คนรักสุนัขไม่ควรมองข้ามนะครับ แม้ว่าสุนัขอาจจะอ้วกได้เป็นปกติจากการสำลักอาหารเพราะเผลอกินจนมากไป แต่ถ้าหากสุนัขอ้วกและมีอาการอื่นๆร่วมด้วย ก็อาจเป็นสัญญาณอันตรายบ่งบอกถึงโรคร้ายชนิดต่างๆ โดยคุณควรปฏิบัติตามขั้นตอนที่ผมแนะนำข้างต้น จะได้รักษาและแก้ไขให้ได้ทันท่วงที เพื่อให้น้องหมาที่คุณรักอยู่กับคุณไปอีกนานๆนั่นเองครับ