ถ้าตอนนี้คุณยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องสุนัขหายไปจากบ้าน ก็ถือว่าคุณโชคดีมากครับ เพราะจากสถิติข้อมูล “สัตว์หาย” หรือ Lost & Found ของ จส.100 เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เพียงเดือนเดียว ก็มีน้องหมาหายมากถึง 33 ตัว นี่ยังไม่นับรวมการแจ้งสุนัขหายจากแหล่งอื่น ๆ อีกเป็นร้อย ๆ แหล่งนะครับ
ดังนั้นการทำความเข้าใจ และเรียนรู้ขั้นตอนตามหาเมื่อน้องหมาหายตัว จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น คุณก็ยังรู้วิธีหรือขั้นตอนตามหาน้องหมาที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพจริง ๆ เพื่อให้ในที่สุดแล้ว การตามหาของคุณจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง
12 ขั้นตอนที่ต้องทำเมื่อน้องหมาสุดที่รักหายตัวไป
กรณีที่คุณสงสัยว่าสุนัขหายไป คุณก็ควรนำ 12 ขั้นตอนในการตามหาน้องหมา ที่ผมแนะนำนี้ไปปรับใช้ดู ซึ่งต้องบอกก่อนว่า 12 ขั้นตอนนี้ คุณไม่จำเป็นจะต้องทำเรียงลำดับเป๊ะ ๆ เพราะบางครั้งคุณอาจมีข้อจำกัด หรือปัจจัยบางอย่างนอกเหนือจากนี้
ดังนั้นหากคุณคิดว่าสะดวกทำขั้นตอนใดก่อน ขั้นตอนนั้นเสียเวลาน้อยกว่า คุณก็สามารถจัดการในแบบของคุณได้เลย แต่แนะนำว่าการมี “ทีมเวิร์ก” ในการตามหาน้องหมานั้นสำคัญที่สุดครับ เพื่อให้คุณสามารถทำแต่ละขั้นตอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำหลาย ๆ ขั้นตอนพร้อมกันไปได้เลย
สำหรับ 12 ขั้นตอนในการตามหาสุนัขที่หายไปที่คุณควรรู้ มีดังนี้ครับ
1. ตั้งสติเป็นอันดับแรก
อันดับแรกในการตามหาของรักหายทุกชนิดก็คือ “สติ” ครับ เพราะเมื่อสติมาปัญญาย่อมเกิด ดังนั้นเรียกสติให้คืนมาโดยเร็วที่สุด และพยายามคาดเดาสาเหตุที่ทำให้น้องหมาหาย เนื่องจากการคาดการณ์ว่าน้องหมาหายไปจากสาเหตุใด จะเป็นประโยชน์ในการตามตัวน้องหมาอย่างยิ่ง เช่น
#คาดว่าน้องหมาถูกขโมย
ถ้าน้องหมาของคุณเป็นสายพันธุ์ราคาแพง และสังเกตว่าระยะนั้นมีคนมาป้วนเปี้ยนสังเกตน้องหมาบ่อย ๆ ก็อาจเป็นไปได้ว่าน้องหมาอาจหายไปเพราะถูกขโมย ดังนั้นคุณอาจแจ้งข้อสังเกตเรื่องนี้กับตำรวจด้วย ก็จะเป็นเบาะแสที่ดี
#คาดว่าน้องหมาติดสัดจึงหนีไปหาสาว
ถ้าน้องหมาหนุ่มของคุณ เคยมีประสบการณ์แอบหนีไปติดสาวในช่วงเป็นสัด และช่วงนั้นเขาก็กำลังติดสัดพอดี ก็เป็นไปได้ว่าน้องหมาจะแอบหนีไปเอง ดังนั้นการตามรอยเขาโดยเน้นบ้านที่มีน้องหมาตัวเมีย หรือแหล่งที่มีน้องหมาเยอะ ๆ ก็อาจจะทำให้คุณพบเขาได้
#คาดว่าน้องหมาจะออกไปหาอาหารข้างนอก
กรณีที่คุณเลี้ยงแบบปล่อย ให้เขาออกไปข้างนอกบ้านบ้าง และไม่ได้ให้อาหารเขามากเท่าที่ควร ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจไปตามแหล่งชุมชน แหล่งขายอาหาร หรือที่ที่มีคนให้อาหารบ่อย ๆ ดังนั้นลองเริ่มต้นหาจากบริเวณนั้นก็อาจทำให้คุณเจอเขา และแนะนำว่าหากคุณเจอเขาแล้ว การเลี้ยงเฉพาะในบริเวณบ้าน ย่อมดีกว่าการเสี่ยงให้เขาออกไปข้างนอกโดยไม่มีคุณนะครับ
#คาดว่าไม่ทันระวังน้องหมาจึงหลุดออกไป
หากคุณสงสัยว่าคุณไม่ได้ล่ามน้องหมาเมื่อเอารถออกจากบ้าน หรือปล่อยปละละเลยไปบ้าง จึงทำให้น้องหมาหลุดออกไปไม่ทันเห็น การรีบตามหาบริเวณบ้านใกล้เคียงในทันที ก็อาจเจอตัวน้องหมาได้
2. สอบถามคนในครอบครัว
เมื่อน้องหมาหายไป อย่าลืมสอบถามสมาชิกในครอบครัวก่อนนะครับว่าเห็นน้องหมาไหม เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคนในครอบครัวบางคน อาจพาน้องหมาออกไปเที่ยวแล้วไม่ได้บอกก็ได้
3. สำรวจให้ทั่วบ้าน ชัวร์ว่าหาย หรือแค่ซ่อนตัว
เมื่อสอบถามสมาชิกในครอบครัวแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าน้องหมาหายไปไหน คุณก็ควรสำรวจทั้งในตัวบ้านและนอกตัวบ้านทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะตามมุมอับ หรือที่ที่เขาชอบไปซ่อนตัว ซึ่งคุณอาจจะร้องเรียกชื่อเขา หรือหลอกล่อด้วยขนมที่เขาชอบ
หากคุณทำทั้ง 3 ข้อข้างต้นแล้วก็ยังไม่เจอตัว และรู้ว่าน้องหมาหายแน่ ๆ คุณก็ควรรีบทำขั้นตอนต่อไป ดังนี้
4. สอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียง
การสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นวิธีที่ดีครับ เพราะเพื่อนบ้านบางคนอาจเห็นว่าน้องหมาของคุณหลุดออกมา และไปยังเส้นทางใด ซึ่งข้อมูลนี้ก็อาจเป็นประโยชน์ในการค้นหามาก
5. แจ้งความสุนัขหาย
คุณไม่ควรอายหากจะต้องแจ้งความสุนัขหาย และยิ่งถ้าคุณสงสัยอยู่แล้วว่า น้องหมาอาจหายเพราะมีคนเอาไปก็ควรแจ้งความทันที ซึ่งการแจ้งความจะทำให้ หากเกิดคดีความขึ้นมา ก็จะช่วยให้การสืบสวนเป็นขั้นเป็นตอน และมีความหนักแน่นมากขึ้น
6. แจ้งหน่วยงานหรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง
การแจ้งความกับตำรวจอย่างเดียวยังไม่พอครับ คุณควรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่ช่วยตามหาสัตว์เลี้ยงหายได้ โดยเฉพาะ จส.100 ซึ่งการให้คนในสังคมช่วยสอดส่องตามหาน้องหมาที่หายไป ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเจอตัวเขามากขึ้น
7. ใช้โซเชียลทุกช่องทางให้เป็นประโยชน์
แน่นอนว่ายุคนี้แล้ว การใช้ช่องทางโซเชียลทุกอย่างในการตามหาน้องหมา ย่อมเป็นตัวช่วยที่คุณจะปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะการลงตามหาในเพจละแวกบ้านของคุณ และอย่าลืมตั้งค่าแจ้งเตือนเมื่อมีความคืบหน้าเสมอด้วยนะครับ
สำหรับรายละเอียดที่คุณควรแจ้งในโพสต์น้องหมาหาย ซึ่งจำเป็นต้องมี เช่น
- ภาพถ่ายน้องหมาแบบเห็นเต็ม ๆ ทั้งตัว และลงหลายรูปก็ยิ่งดีครับ
- ชื่อน้องหมา
- เพศ
- อายุ
- ลักษณะพิเศษ เช่น ขาสั้น เดินกะเผลก มีแผล ลักษณะปลอกคอ
- พิกัดล่าสุดที่น้องหมาหายตัวไป
- เบอร์ติดต่อของคุณ หรือช่องทางการติดต่อต่าง ๆ
8. ดูกล้องวงจรปิด
หากบริเวณที่คาดว่าน้องหมาจะหายไปมีกล้องวงจรปิด การขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด คุณก็อาจจะได้เห็นว่าน้องหมาไปทิศทางใด จะได้ย่นระยะเวลาตามหา หรือกรณีที่ถูกขโมยออกไป ก็อาจจะได้เห็นลักษณะของคนร้าย โดยคุณอาจดูจากกล้องวงจรปิดหมู่บ้าน ร้านค้าที่คาดว่าน้องหมาน่าจะเดินผ่านไป หรือแม้แต่กล้องวงจรปิดตามถนน
9. ระดมทีมค้นหา
ทีมค้นหาน้องหมาควรแบ่งเป็น 2 ทีมครับ คือทีมรถหรือพาหนะ และทีมเดินเท้าเพื่อค้นหาในสถานที่ที่รถเข้าไม่ถึง และโดยทั่วไปแล้วภายใน 24 ชั่วโมง น้องหมามักเดินได้ไม่เกิน 4 กิโลเมตร การออกตามหาในทันที ก็ย่อมมีโอกาสที่จะได้เจอเขามากขึ้น
10. ติดประกาศน้องหมาหาย
การติดประกาศน้องหมาหายตามละแวกบ้าน หรือแหล่งชุมชนใกล้บ้าน ก็ถือเป็นวิธีแบบโบราณแต่ก็ได้ผลดีเช่นกัน ซึ่งคุณอาจกระตุ้นด้วยเงินรางวัลนำส่ง ก็จะทำให้เกิดความสนใจ และเกิดการพูดแบบปากต่อปากกันไปมากขึ้น
แต่หากมีผู้ติดต่อมาว่าพบเจอน้องหมาแล้ว คุณไม่ควรรีบไปพบเขาเพียงลำพัง เพราะเขาอาจเป็นมิจฉาชีพได้ คุณจึงควรขอให้เขาช่วยถ่ายวิดีโอน้องหมาของคุณ ขอให้เขานำมาส่งโดยออกค่ารถให้ด้วย หรือไปกันหลาย ๆ คนเพื่อความปลอดภัย
11. กระจายข่าวให้ทั่ว
ร้านค้า บุรุษไปรษณีย์ พี่วิน คนทำความสะอาดถนน เหล่านี้คือบุคคลที่ทำงานอยู่ละแวกนั้น ซึ่งมักจะเดินทาง หรือพบปะผู้คนมากมาย พวกเขาจึงมีโอกาสพบเจอน้องหมาของคุณเช่นกัน ดังนั้นอย่าลืมแจ้งข้อมูลน้องหมา และเบอร์ติดต่อกลับของคุณด้วย
12. หาตามสถานพักพิงหรือศูนย์ดูแลสุนัขจร
หากเวลาเนิ่นนานเป็นเดือนเป็นปี คุณก็ยังไม่เจอน้องหมาสุดที่รัก ก็อย่าเพิ่งหมดหวังนะครับ เพราะบางครั้งน้องหมาของคุณอาจไปอยู่ตามสถานพักพิง หรือศูนย์ดูแลสุนัขบางแห่ง ดังนั้นการหมั่นเข้าไปเช็กภาพน้องหมาตามเพจต่าง ๆ ไม่แน่สักวันคุณอาจโชคดีได้เจอน้องหมาที่หายไป
นอกจากนี้การติดต่อสถานสงเคราะห์สัตว์ต่าง ๆ ที่รับอุปการะสัตว์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยให้คุณทิ้งภาพถ่าย แจ้งข้อมูลน้องหมา พร้อมเบอร์ติดต่อกลับ ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้เจอน้องหมามากขึ้น
เมื่อเจอตัวน้องหมาแล้วต้องทำอย่างไรต่อ
หากคุณเจอน้องหมาแล้ว ก็อย่าเอาแต่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจนะครับ เพราะยิ่งน้องหมาหายไปหลายวัน ก็อาจทำให้สุขภาพของเขาแย่ลง หรือได้รับอุบัติเหตุมาได้ ดังนั้นการสำรวจน้องหมาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของเขา ก็จะทำให้คุณเห็นว่าเขายังโอเคอยู่ไหม
แต่ทางที่ดีแนะนำว่า คุณควรรีบพาน้องหมาไปตรวจร่างกายจะดีที่สุดครับ เพราะเมื่อคุณได้พบเขาอีกครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ คุณคงไม่อยากให้เขาเป็นอันตราย หรือต้องสูญเสียเขาไปอีกแน่ ๆ
นอกจากนี้ถ้าคุณพบน้องหมาแล้ว อย่าลืมว่าสิ่งที่คุณประกาศไปทุกช่องทาง จำเป็นจะต้องลบออกทันทีนะครับ เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ก็อาจทำให้คนที่ช่วยคุณเสียเวลาตามหา และตัวคุณเองก็จะต้องรับสาย หรือยุ่งอยู่กับการอธิบายว่าเจอน้องหมาแล้วทั้งวัน
ป้องกันไว้ ไม่ต้องกลัวน้องหมาจะหายอีก
อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอย และแสดงให้เห็นว่า คุณเป็นเจ้าของที่ละเลยไม่ใส่ใจน้องหมาเลยครับ ดังนั้นการป้องกันน้องหมาหายด้วยวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยให้น้องหมาของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้น
- ปลอกคอที่มีเบอร์โทร หรือที่อยู่ของคุณ
- ปลอกคอที่มีระบบ GPS (จีพีเอส) เพื่อติดตามตัว
- ฝังชิปน้องหมา ซึ่งชิปนี้ไม่ใช่ GPS เพื่อใช้ตามพิกัด แต่ถือเป็นบัตรประชาชนของน้องหมา กรณีที่มีการสแกนเจอชิป ก็แสดงว่าน้องหมาตัวนี้มีเจ้าของ และเจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อเจ้าของได้จากที่อยู่ที่ได้มีการลงทะเบียนเอาไว้
- ฝึกให้น้องหมาเชื่อฟังหรืออยู่ในคำสั่ง เพื่อให้เขาไม่กล้าวิ่งหนีออกไปแม้มีโอกาส
- ฝึกน้องหมาให้สงบ ไม่ให้ตื่นตกใจมากเกินไป โดยเฉพาะน้องหมาที่มีนิสัยขี้กลัว ที่มักกลัวเสียงดังจนวิ่งเตลิดออกไป ซึ่งช่วงเทศกาลที่มีการจุดพลุจะเป็นช่วงที่มีน้องหมาหายกันมาก
- การใส่ใจไม่ปล่อยปละละเลย ไม่ปล่อยออกไปนอกบ้านเพียงลำพัง หรือให้น้องหมาอยู่ในสายตาเสมอ ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลว่าเขาจะหายตัวไปอีก
ถ้าตอนนี้คุณยังไม่ต้องใช้กลยุทธ์ตามหาน้องหมาที่หายไป การป้องกันการสูญหายซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า ย่อมเป็นสิ่งที่คุณสมควรทำอย่างยิ่ง เพราะคุณคงไม่อยากพรากจากน้องหมาแสนรัก หรือต้องตามหาอย่างไร้ความหวัง ดังนั้นอย่าลืมนะครับว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขเสมอ