ฝึกสุนัขขึ้นรถ ต้องรู้อะไรบ้าง?


ฝึกสุนัขขึ้นรถ ต้องรู้อะไรบ้าง

สิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นได้นอกเหนือจากการมีน้องหมาเป็นเพื่อนก็คือการพาน้องหมาไปเที่ยวที่ไกลนั่นเอง นอกจากจะเป็นเรื่องสนุกสำหรับมนุษย์แล้ว การพาน้องหมาไปเปิดโลกกว้างก็ดีสำหรับสุนัขด้วย

จุดเริ่มต้นง่ายๆของการเริ่มพาสุนัขไปเที่ยวก็คือการพาสุนัขขึ้นรถ แต่สิ่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเลย สุนัขหลายตัวไม่ชอบขึ้นรถ บางตัวเห่าเสียงดัง หรือที่แย่กว่าก็คือทำตัวน่าสงสารจนเจ้าของใจสลาย วันนี้ผมจึงอยากจะมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ของการฝึกน้องหมาขึ้นรถกัน

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนฝึกสุนัขขึ้นรถ

            เพราะสุนัขทุกตัวไม่ใช่ว่าจะชอบนั่งรถเที่ยวเสมอไปดังนั้น ผู้เลี้ยงจะต้องมีการเตรียมตัวน้องหมาก่อนพาขึ้นรถเสมอ ซึ่งควรมีการเตรียมตัวดังนี้

  1. ต้องมีวิธีควบคุมสุนัขเมื่ออยู่บนรถ เพราะการปล่อยให้น้องหมาวิ่งได้อย่างอิสระบนรถไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก อย่างน้อยก็ทำให้เราเสียสมาธิเวลาขับรถได้ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการให้น้องหมาอยู่ในกรงเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังเวลาขับรถ นอกจากนี้การที่น้องหมาอยู่ในกรงก็ปลอดภัยกับการโดยสารที่สุดด้วย แต่ถ้าหากไม่อยากให้น้องหมาอยู่ในกรงก็ต้องมีพื้นที่ที่ปลอดภัยที่ทำให้น้องหมาสามารถอยู่นิ่งๆ บนรถได้เช่น มีผ้าห่มหรือที่นอนเล็กๆ ให้น้องหมาได้นอนงีบอยู่มุมรถ หรือหาเบาะนิรภัยให้น้องหมานั่งก็ได้
  2. พาน้องหมาออกกำลังกายก่อนพาขึ้นรถ เพราะเมื่อน้องหมาเหนื่อยหรืออ่อนแรงเราก็สามารถนำน้องหมาให้พักอยู่ในกรงก่อนพาขึ้นรถ หรืออย่างน้อยน้องหมาก็จะอยู่นิ่งหรือผลอยหลับไปในมุมรถที่เราจัดที่นอนไว้ให้ เราก็จะได้ไม่เสียสมาธิเวลาขับรถเพราะไม่ต้องห่วงน้องหมายังไงกันล่ะ
  3. ควรให้น้องหมาได้กินอะไรก่อนขึ้นรถล่วงหน้าสัก 2 – 3 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมารู้สึกเมารถจนเกิดอาการงุ่นง่านบนรถได้
  4. ตรวจสุขภาพน้องหมาก่อนออกเดินทาง เพื่อความสบายใจของเจ้าของและเพื่อไม่ให้น้องหมาเกิดอาการงุ่นง่านหรือตื่นกลัวเมื่ออยู่บนรถ น้องหมาของเราจึงควรได้รับการตรวจเช็คสุขภาพก่อนออกเดินทาง และอาจป้องกันน้องหมาเมารถด้วยการให้น้องหมากินยาแก้เมารถก่อนออกเดินทาง 30 นาทีก็ได้
  5. รู้จักสังเกตอาการน้องหมาและหยุดพักรถเป็นระยะ โดยอาจจะหยุดพักรถทุก 2 – 3 ชั่วโมงหรือคอยสังเกตอาการหรือกริยาของน้องหมาว่ามีการกระสับกระส่าย หรือไม่สบายตัวด้วยหรือเปล่าเพราะต้องอย่าลืมว่าน้องหมาไม่คุ้นเคยกับการนั่งรถ และเวลาน้องหมารู้สึกไม่สบายก็บอกเราไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องรู้จักสังเกตด้วยตัวเอง

อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องเตรียมเมื่อมีน้องหมานั่งรถไปด้วย

            เพื่อให้น้องหมารู้สึกเพลิดเพลินหรือนิ่งที่สุดเมื่ออยู่บนรถ เราควรมีการจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับน้องหมาดังนี้

  1. มีของเล่นให้น้องหมาสัก 2 – 3 ชิ้น ไว้ที่เบาะหลังหรือเบาะนั่งของน้องหมา ซึ่งควรเป็นของเล่นประเภทกัดเคี้ยว เช่น เชือกกัด กระดูกไม้มะม่วง หรือพวกของเล่นขัดฟันสำหรับสุนัข ห้ามนำพวกของโปรดที่เป็นกระดูกหรืออาหารสำหรับสุนัขให้น้องหมาอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้น้องหมาเกิดอยากอาเจียนตอนอยู่บนรถได้
  2. อุปกรณ์ส่วนตัวของน้องหมาก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสายจูง สายคล้องคอ สายรัดนิรภัยสำหรับสุนัข รวมถึงของกิน ของเล่นหรืออุปกรณ์ฉุกเฉินต่างๆ เช่น ยารักษาโรค ถุงพลาสติก กระดาษทิชชู่ ต้องเตรียมให้พร้อมที่จะหยิบใช้ได้สะดวกตลอดเวลา
  3. จัดที่นั่งน้องหมาให้พร้อมก่อนเดินทาง ซึ่งที่นั่งที่เหมาะที่สุดสำหรับน้องหมาเมื่อต้องเดินทางก็คือ เบาะด้านหลังรถนั่นเอง โดยอาจเตรียมปูผ้าห่ม หรือเตียงน้องหมาไว้ที่มุมด้านใดด้านหนึ่งของเบาะหลัง หรือมีแผ่นรองกันเปื้อนในรถยนต์สำหรับสัตว์เลี้ยงปูเอาไว้ อย่างน้อยก็เพื่อป้องกันการขีดข่วนหรือเล่นซุกซนของน้องหมาที่อาจทำให้เบาะรถเกิดความเสียหายได้
  4. เข็มขัดนิรภัยหรือสายรัดอกแทนการผูกปลอกคอ ควรมีไว้เพื่อป้องกันการกระแทกของน้องหมากรณีรถเบรกกะทันหัน และสามารถช่วยผ่อนแรงไม่ให้น้องหมาเกิดอันตรายได้เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
  5. รถเข็นสุนัขก็ต้องเตรียมไว้สำรอง สำหรับน้องหมาพันธ์เล็กๆ เมื่อได้อยู่ในที่ปลอดภัยก็จะทำให้รู้สึกสบายใจ เวลานั่งรถไปก็จะอยู่นิ่งๆ ได้ ไม่เป็นการรบกวนสมาธิคนขับ หรือสามารถเอาไว้ใช้เมื่อหยุดพักรถระหว่างทาง หรือการเดินทางระยะไกลเอาไว้ให้น้องหมาได้พักผ่อนหายเหนื่อยได้
  6. กระเป๋าน้องหมาก็เป็นอุปกรณ์ทางเลือกอีก 1 ชนิด ที่ช่วยเจ้าของทุ่นแรงเวลาพาน้องหมาขึ้นเขา ลงห้วยโดยไม่ต้องวิ่งตามให้เหนื่อยได้

เราจะเห็นได้ว่าบางครั้งการเตรียมตัวก็เหนื่อยกว่าการไปเที่ยวเสียอีก จริงๆแค่คิดเรื่องอุปกรณ์ก็เยอะแล้ว (เยอะกว่าอุ้มลูกไปเที่ยวอีก) อย่างไรก็ตามแค่อุปกรณ์อย่างเดียวก็ไม่เพียงพอครับ ในส่วนต่อไปเรามาดูกันเรื่องขั้นตอนการฝึกสุนัขกัน

ขั้นตอนการฝึกสุนัขให้นั่งรถเป็น

สำหรับขั้นตอนการฝึกสุนัขก็ละเลยไม่ได้เช่นกัน เพื่อให้น้องหมาเกิดความพร้อมทั้งกาย ใจมากที่สุดก่อนการเดินทาง เจ้าของจะต้องรู้จักการฝึกสุนัขให้อยู่ภายใต้คำสั่งของเราได้ด้วย เพราะเมื่อสภาพแวดล้อมหรือสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป น้องหมาย่อมเกิดภาวะตื่นตกใจหรืออารมณ์ผันแปรได้ ดังนั้นการฝึกน้องหมาให้รู้จักทำตามคำสั่งจะช่วยให้การเดินทางของเจ้าของราบรื่นขึ้น ดังนั้นมาเรียนรู้ขั้นตอนการฝึกคำสั่งพื้นฐานสำหรับสุนัขกัน

  1. ฝึกนั่งถือเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานที่จะเชื่อมโยงไปยังคำสั่งอื่นๆ ที่ยากขึ้นด้วยการออกคำสั่งง่ายๆ คือ “นั่ง” พร้อมๆ กับการใช้มือกดเบาๆ ตรงสะโพกของน้องหมาเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้น้องหมานั่งลง ซึ่งอาจต้องเตรียมรางวัลด้วยคำชมว่า “ดีมาก” หรือ “เก่งมาก” แล้วลูบช่วงไหล่ของน้องหมาเพื่อเป็นรางวัลหรือให้ขนมสุดโปรดของน้องหมาก็ได้
  2. ฝึกคอย จะเป็นคำสั่งต่อเนื่องจากการฝึกนั่ง ซึ่งสามารถใช้ได้กับหลายๆ สถานการณ์ของการเดินทาง เช่นสั่งให้คอยอยู่หน้ารถจนกว่าเจ้าของจะทำธุระเสร็จ ด้วยการสั่งว่า “คอย” จากนั้นรอราว 5 นาทีเมื่อน้องหมาอยู่นิ่งแล้วจึงให้รางวัล
  3. ฝึกให้คุ้นเคยกับสายจูง เนื่องจากสายจูงจะช่วยเรื่องความปลอดภัยให้น้องหมาได้และยังเป็นสิ่งที่บอกให้น้องหมารู้ว่าต้องอยู่ภายใต้คำสั่งเราเท่านั้นด้วยการเดินขนาบข้างน้องหมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามีอำนาจเหนือกว่าและหากน้องหมาพยายามเดินนำหน้าเรา เราก็หยุดเดินและกระตุกสายจูงพร้อมสั่งให้น้องหมานั่งลง เมื่อน้องหมานั่งลงตามคำสั่งแล้วค่อยให้รางวัล สักพักค่อยจูงน้องหมาเดินต่อ
  4. ฝึกน้องหมาให้ไม่กลัวการเดินทาง ข้อนี้อาจใช้เวลาฝึกราว 1 – 2 เดือนด้วยการพาน้องหมาขึ้นรถให้บ่อยขึ้นเริ่มจากระยะเวลาสั้นๆ และบริเวณใกล้ๆ ก่อน พอน้องหมาค่อยๆ คุ้นเคยกับการนั่งรถมากขึ้นค่อยพาน้องหมาเดินทางในระยะไกลๆ ได้

ส่วนมากสุนัขที่กลัวการขึ้นรถคือสุนัขที่มีประสบการณ์ไม่ดีมาก่อน เช่น เจ้าของหลอกให้ไปหาสัตว์แพทย์โดยส่วนมากหากเราพาน้องหมาไปเที่ยวบ่อยๆ ไปซื้อของเล่น ภายในไม่นานน้องหมาก็จะชอบการขึ้นรถไปเอง เรียกว่าลำบากแค่ช่วงแรก แต่หลังๆก็จะสบายเองครับ

เป็นยังไงบ้างครับกับเคล็ดลับในการพาน้องหมาไปเที่ยวด้วยกันที่ผมเอามาฝาก เพราะอย่างน้อยผมเชื่อว่าคนที่รักสุนัขหลายคนมีความคิดที่อยากจะพาน้องหมาไปเที่ยวด้วยกันทุกที่เพียงแต่ไม่รู้วิธีการหรือเคล็ดลับที่ถูกต้อง น้องหมาที่เรารักก็เลยพลาดโอกาสได้ชมสถานที่สวยๆ งามๆ เหมือนเจ้าของไปด้วย แต่ว่าต่อไปพวกเราจะไม่พลาดโอกาสนั้นอีกต่อไปเมื่อได้ปฎิบัติตามเคล็ดลับต่างๆ ที่ผมนำมาฝากในครั้งนี้

บทความล่าสุด